Lampang : คู่มือ Backpacker เที่ยวเมืองลำปาง 2019 เที่ยวทั่วเมืองภายใน 1 วัน (ไม่ต้องขึ้นรถ เดินเท้าเอาก็ได้ อาหารอร่อย แถมไม่แพง ) ลำปาง เมืองน่าเที่ยว แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้

สวัสดีครับวันนี้ ผู้เขียนอยากจะมาแนะนำ คัมภีร์การท่องเที่ยว เมืองลำปาง ตามแบบฉบับ Backpacker มืออาชีพ คือ เที่ยวแบบ ไม่เน้นแพง เน้นประหยัด ,ต้องอ่านติดตามกระทู้ให้จบเลยครับ รับรองท่านจะได้วิธีการเที่ยว เมืองลำปาง อย่างไรให้ทั่วเมือง ภายใน 1 วันครับ (เหมาะสำหรับ พวกบล็อกเกอร์ หรือ ยูทูปเบอร์ สไตล์ผจญภัยหน่อยนะครับ จะไม่มีโบกขึ้นรถโดยสาร ให้เสียตังค์ กันเลยทีเดียว) สำหรับชาวต่างชาติ มีเมนู Google Translate อยู่ทางด้านซ้ายมือของเว็บไซต์ นะครับ แปลได้ทุกภาษา


1 ) สถานที่แรก หากท่านเดินทางมายังสถานีรถไฟ หรือ สถานีขนส่งจังหวัดลำปางแล้ว อย่าเพิ่งโบกรถโดยสารนะครับ มันเปลืองตังค์โดยใช่เหตุ แนะนำให้ท่านเปิดสัญญานไวไฟ4G ให้ดี ส่องกูเกิลแมพให้แม่น แล้วพร้อมเดินทางมากับผมเลยครับ ... สถานที่ท่องเที่ยวแรก อยู่ไม่ไกลจากทั้งสถานีรถไฟและสถานีขนส่งเท่าใดนัก คือวัดศรีรองเมือง หลายท่านจะคุ้นๆในฉากละครนากครา ใช่แล้วครับ วัดนี้เป็นวัดพม่า สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ในยุคการทำอุตสาหกรรมไม้สัก ในลำปาง เป็นที่เฟื่องฟู ชาวพม่ามีความเชี่ยวชาญในการทำไม้ ได้หลั่งไหลเข้าสร้างบ้านแปงเมืองในลำปางกันเยอะ และได้สร้างวัดพม่า อีกหลายสิบวัด เรียกไ้ด้ว่าลำปาง มีวัดแบบพม่าเยอะที่สุดในไทย วัดศรีรองเมือง สวยงามมากครับ วิหารเป็นไม้สักทองแท้ ทั้งหลังเลยครับ เลยไม่แปลกใจครับ ละครแนวจักรๆวงศ์ๆ ทางเหนือ จะมาใช้เป็นโลเกชั่น ถ่ายละครกัน หลายวัดเลยครับในลำปาง


2 ) สถานที่ท่องเที่ยวถัดไป เดินทางจากวัดเมื่อสักครู่มาทาง 5 แยกหอนาฬิกา เดินเท้ามาก็ประมาณ 10นาที ท่านจะได้พบวัดเชียงราย ที่สวยงาม เหตุที่ชื่อว่าวัดเชียงราย ก็เพราะในสมัยอดีต ผู้คนแถบนี้ถูกเทครัว มาจากเชียงแสน เชียงราย มาปักหลักตั้งถิ่นฐานที่นี่ ชาวบ้านก็เลยสร้างวัดขึ้นมา โดยยังใช้ชื่อเป็นที่อยู่เดิม เพื่อเป็นการรำลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน ที่ต้องจากมา


3 ) เกรงว่าท่านจะหิวกัน หลังจากเที่ยวมา 2 วัดแล้ว ไปหาอะไรทานกันดีกว่าครับในตลาดบริบูรณ์ หรือ กาดมืด ของชาวลำปาง เดินเท้าจากห้าแยกหอนาฬิกา มาเพียง10 นาที ก็เจอตลาดแล้ว บรรยากาศจะมืดๆหน่อย สมชื่อกาดมืดเลยครับ ที่นี่จะมีบะหมี่ร้อยปี คือ จะเป็นร้านบะหมี่หลายๆร้าน เค้าขายกันตั้งแต่ก่อตั้งตลาดนี้มา จากรุ่นสู่รุ่น จนถึงปัจจุบันนี้ ก็รวมอายุได้ร้อยกว่าปีแล้ว แนะนำให้สั่งบะหมี่เหลืองแห้ง หมูแดง หมูสับ ลูกชิ้น ทางร้านเค้าใจดีครับ จะให้น้ำซุปมาให้ด้วย ราคาไม่แพงครับ ราคาชาวบ้านๆเค้าทานกัน 30 บาท แถมอร่อยด้วย


4 ) อิ่มท้องกันแล้ว หลังได้ทานบะหมี่กาดมืด เราจะเดินเท้ากันต่อไปยัง วัดปงสนุก ใช้เวลาไม่นานครับ 5 นาทีจากกาดมืด โดยให้เดินข้ามสะพานตรงใกล้วัดเกาะ บริเวณกาดกองต้า ข้ามสะพานเสร็จ ก็เดินตรงไปอีก100 เมตร ก็เจอวัดแล้ว ... วัดปงสนุก นี้จัดได้ว่าเก่าแก่ วัดหนึ่งในลำปางเลยทีเดียวครับ ได้รับรางวัล จากองค์การ Unesco เมือปี 2008 ชื่อปงสนุก ก็คือหมู่บ้านชาวเชียงแสน ที่ได้อพยพเทครัว มาอยู่กันที่นี่นานแล้ว ตามประวัติ วัดนี้อาจจะมีอายุถึง 1,300ปีเลยครับ มีวิหารพระเจ้าพันองค์ ที่แสดงถึงศิลปกรรมจีนสิบสองปันนา ผสมกับพม่า และศิลปแบบไทยเชียงแสน วัดนี้แนะนำเลยครับ ว่ามาเที่ยวลำปางต้องห้ามพลาด



5 ) จากวัดปงสนุกแล้ว ให้เดินทางกันต่อ เดินเท้ามาทางริมแม่น้ำวัง ประมาณ 5 นาที ก็จะเจอตลาดหัวขัว และ สะพานรัษฎา แนะนำให้แวะหาซื้อช้อปปิ้งของฝากที่นี่ เพราะราคาถูก พวกแคบหมูทอดใหม่ๆ ไส้อั่วย่างใหม่ๆ อาหารการกินก็มีมากมาย ถ้าอยากทานของกินแบบคนเมืองเหนือ ก็มีเช่น ไข่ป่าม ยำหนังควาย แกงกระด้าง ฯลฯ ซึ่งเดี๋ยวนี้คนเหนือรุ่นใหม่ ไม่รู้จักแล้ว และ อย่าลืมเซลฟี่ กับสะพานเก่าแก่ อายุกว่าร้อยปี คือ สะพานรัษฎา ที่อยู่รอดพ้นระเบิดสมัยสงครามโลก ครั้งที่2 มาได้แบบหวุดหวิด เพราะชาวบ้านช่วยทาสีพรางตา ไ่ม่ให้เครื่องบินทิ้งระเบิดเห็น


6 ) มาเที่ยวกันต่อเลยครับ ข้ามมาทางสะพานรัษฎามาแล้ว ให้หาเส้นทางเดินไป ที่ทำการที่ดินจังหวัดลำปาง แล้วเดินเลยขึ้นไปทางเหนือประมาณ 2 นาที ทางขวามือ ท่านจะเจอวัดพม่า ในสไตล์อินเดีย สวยงาม อลังการ มีชื่อว่า วัดเชตวัน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพระพุทธรูป สมัยเชียงแสน ไว้มากที่สุดวัดหนึ่งเลย ยอดเจดีย์วัดนี้จะมีสีทองอร่าม เวลาถ่ายรูปออกมาจะสวยงามมาก เป็นศิลปแบบพม่าผสมอินเดีย มีเพียงวัดเดียวในไทยด้วยครับ



7 ) จากวัดเชตวัน ให้เดินขึ้นมาเรื่อย เลาะริมแม่น้ำวังมา จนถึงสะพานท่ามะโอ ให้ท่านข้ามสะพานมา ถึงฝั่งท่ามะโอ จะเจอแหล่งวัฒนธรรม เมืองเขลางค์ยุคเก่า และเป็นที่ตั้งวัดโบราณสำคัญๆ หลายวัด วันนี้ผู้เขียนจะพาไปวัดประตูป่อง กันครับ ให้เดินเท้าตรงไปที่แยกป่าไม้-วัดประตูต้นผึ้ง เลี้ยวซ้ายไปถนนสายวัฒนธรรม ไปประมาณ100 เมตร จะเจอกู่เจ้าย่าสุตา ตรงกันข้าม อีกฝั่งถนนก็คือ ประตูหลังวัดประตูป่องนั่นเองครับ เล่าประวัติคร่าวๆ บริเวณแถบนี้เป็นเขตกำแพงเมืองเขลางค์ยุคแรก ติดท่าน้ำมะโอ เป็นแหล่งขนสินค้าขึ้นจากเรือ มาค้าขายกันในเขตกำแพงเมือง ทำให้เมืองเขลางค์ในยุคนั้น มีเศรษฐกิจดียิ่ง ทำให้ชาวเมืองอยู่ดี กินดี จึงมีการสร้างวัดวาอาราม ให้ทำบุญ ทำกุศลกัน บริเวณนั้นมากมาย


8 ) จากแยกวัดประตูต้นผึ้ง ให้ท่านเดินเท้ามาในทิศตรงข้ามแม่น้ำวัง มาสัก 2 นาที ก็จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวาเพื่ิอจะไปมนัสการ วัดพระแก้วดอนเต้า วัดนี้น่าสนใจ เป็นวัดที่พบก้อนหยก อยู่ในผลแตงโม(บ่าเต้า) จึงก่อให้เกิดตำนานพระนางสุชาดา และพระแก้วดอนเต้า ...ผมเคยดูสารคดีของ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ บอกว่า พระแก้วดอนเต้า นั้นเป็นคนละองค์ กับพระแก้วมรกต ที่กรุงเทพ เพราะสร้างกันคนละยุค ศิลปการสร้างก็คนละสมัยกันเลย ไม่ใช่องค์เดียวกัน และไม่มีองค์ไหนแท้ ไม่แท้เพราะ เป็นองค์จริงจากหินสีเขียวทั้งคู่ พระแก้วมรกตที่กรุงเทพ เป็นศิลปะก่อนยุคเชียงแสนซะอีก ส่วนพระแก้วดอนเต้า สร้างแบบศิลปะเชียงแสนตอนปลายแล้ว


9 ) จากวัดพระแก้วดอนเต้า ให้ท่านเดินขึ้นทิศเหนือ จะเจอถนนใหญ่ไป ประมาณ 7 นาที จะได้พบกับ สุสานไตรลักษณ์ เพื่อที่จะสักการะ สรีระสังขารของ หลวงพ่อเกษม เขมโก ซึ่งท่านเป็นพระอริยะสงฆ์แห่งดินแดนลำปางนี้ เป็นกล่าวขานถึง ความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นมากมาย จนเป็นนับถือแก่ชาวลำปาง ตั้งแต่แต่รุ่นปู่ย่าตาทวด กันมาเลยทีเดียว


10 ) ขากลับบ้าน หมดแรงแล้ว ก็แนะนำว่า โบกรถรับจ้าง ไปส่งที่สถานีขนส่งก็ได้ครับ แต่ก่อนกลับบ้าน ว่าลืมแวะทานข้าวซอยกัน มาเที่ยวลำปางทั้งที ห้ามพลาดข้าวซอยเด็ดขาด จะเป็นเจ้าใดก็ได้ครับ อร่อยเหมือนกันหมด ข้าวซอยเป็นอาหารได้รับวัฒนธรรม จากจีน-มลายู เป็นบะหมี่ผสมน้ำแกงกะทิแบบอินเดีย ซึ่งในช่วงคาบสมุทรมลายู สิงคโปร์มีความเจริญมากเนื่องเป็นเมืองท่าเรือส่งออกสินค้าสำคัญของอังกฤษ ส่งผลทำให้มีผู้อยู่ใต้อาณัติปกครองของอังกฤษ มีอยู่จำนวนมากหลากหลายเชื้อชาติ รวมทั้งชาวพม่าด้วย......
ต่อมาภาคเหนือไทยเราได้มีการยกสัมปทานป่าไม้ ให้บริษัทอังกฤษในหลายจังหวัด ส่งผลทำให้ ผู้ถูกปกครองในอาณัติของอังกฤษได้เข้ามาอาศัยตั้งถิ่นฐานรกราก หลักๆนั่นคือชาวพม่า ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมป่าไม้ ที่อังกฤษจะขาดมิได้ เข้ามาตั้งถิ่นฐานในภาคเหนือของเรา พร้อมกับอาหารเลิศรสจากสิงคโปร์ซึ่งแพร่หลายไปมากมายหลายประเทศทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย นั่นก็คือ Laksa ( คือ บะหมี กับ น้ำเครื่องแกงกะทิ ) พบว่ากลุ่มชนชาติที่มาประกอบอาชีพขายข้าวซอยกลุ่มแรกในภาคเหนือ ก็ล้วนเป็นชาวพม่าทั้งสิ้น และในพม่าเองก็ไม่พบอาหารชนิดนี้ รวมทั้ง อาหารเหนือไม่มีกะทิเป็นส่วนผสมเลย แม้แต่ชนิดเดียว จึงเป็นข้อสันนิษฐานสำคัญว่า ข้าวซอยนั้นเป็นอาหารที่ถูกประยุกต์จาก Laksa อาหารมลายู-จีน ซึ่งปัจจุบันเป็นอาหารประจำชาติของสิงคโปร์ไปแล้ว
(ปล.. ไม่จำเป็นต้องทำตามแบบนี้เป๊ะหรอกครับ ท่านเจอสถานที่ใด น่าสนใจท่านก็แวะชมได้ ในเมืองลำปาง ไม่กว้างมากหรอกครับ เดินไปเดินมา เดี๋ยวมาเจอทางเดียวกันแหละครับ ,เที่ยวให้สนุกดีกว่าครับ เหนื่อยก็โบกหา พวกรถรับจ้างก็ได้ )
## คงจะขอจบแต่เพียงเท่านี้ละครับ สำหรับ คัมภีร์คู่มือ Backpacker เที่ยวลำปางใน 1 วัน ...แค่นี้ท่านก็ได้สัมผัสและบรรยากาศ วิถีชีวิตผู้คน วัดวาอารามเก่าแก่ ศิลปวัฒนธรรมอาหารการกิน แบบครบถ้วนสมบูรณ์ ในเวลา1วัน เดินทางด้วยเท้า ก็ไปทั่วเมืองลำปางได้ครับ ..... ไว้มีโอกาส เจอกันอีกทริปหน้านะครับ สวัสดีครับ ##